AMERICA
เรียนภาษาอังกฤษและค้นพบโอกาสใหม่ๆ ที่สหรัฐอเมริกา
เรียนต่อที่อเมริกา
“Learn English, Live the Dream.”
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีโอกาสทางอาชีพมากมาย
Learn in the Heart of Innovation
สหรัฐอเมริกาเป็นแหล่งกำเนิดของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
A World in One Place
อเมริกาเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูงมาก
Become Your Best Self
การเรียนและใช้ชีวิตในอเมริกาช่วยให้นักเรียนพัฒนาความเป็นอิสระและทักษะการแก้ปัญหา
Words to study and live in America
America is a land of dreams and discovery;
America offers more than just an education;
America is place to learn & grow;
สัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในดินแดนแห่งโอกาส
สหรัฐอเมริกาเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักเรียนทั่วโลก ด้วยสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงและโอกาสมากมายสำหรับการพัฒนาทักษะทางภาษาและความก้าวหน้าทางวิชาชีพ
เรียนภาษาอังกฤษ พร้อมใช้ชีวิตในอเมริกา
อเมริกาไม่ใช่แค่สถานที่เรียนภาษาอังกฤษ แต่ยังเป็นดินแดนแห่งความฝันและโอกาสที่ไม่สิ้นสุด สัมผัสชีวิตในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังหรือเมืองเล็ก ๆ ที่อบอุ่นและเป็นกันเอง ไม่ว่าคุณจะเลือกที่ไหน อเมริกาจะมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใครให้กับคุณ
เมือง
นักเรียนต่างชาตินิยมไปศึกษา
แต่ละเมืองมีข้อดีเฉพาะตัวและมีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง นักเรียนสามารถเลือกเมืองที่เหมาะสมกับความสนใจและเป้าหมายการศึกษาของตนเองได้
Together We Build Dreams
JOURNEY
JOURNEY
JOURNEY
JOURNEY
JOURNEY
JOIN THE UPLUS JOURNEY
ที่ UPLUS เราพร้อมที่จะเดินทางไปพร้อมกับคุณทุกขั้นตอน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวของเราและเปลี่ยนแปลงอนาคตของคุณด้วยการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด!
Study abroad & Experience กับ UPLUS คุณสามารถเป็นได้มากกว่าที่คุณเคยเป็น
การสร้าง Journey สำหรับการเรียน เที่ยว และทำงานที่อเมริกา จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายและเต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ พบปะผู้คนใหม่ๆ และสัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง
นี่คือแผนการเดินทางที่ครอบคลุมทั้งการเรียน การท่องเที่ยว และการทำงานในสหรัฐอเมริกา:
ข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการเรียนที่อเมริกา
USA is Transformative Limitless Inspiring for you.
USA as a destination for learning, exploration, and personal growth.
สหรัฐอเมริกา มอบโอกาสที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงให้แก่นักเรียนต่างชาติ แต่การเตรียมตัวและทำความเข้าใจข้อมูลพื้นฐานถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในการเรียนที่อเมริกาได้อย่างราบรื่น นี่คือข้อมูลสำคัญที่คุณควรรู้ :
ระบบการศึกษาในสหรัฐอเมริกา
- ประเภทของสถาบันการศึกษา: สหรัฐอเมริกามีตัวเลือกสถาบันการศึกษาที่หลากหลาย ตั้งแต่มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยชั้นนำอย่าง Harvard, MIT, และ Stanford ไปจนถึงวิทยาลัยชุมชนและสถาบันสอนภาษาอังกฤษที่มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง
- หลักสูตรที่หลากหลาย: นักเรียนมีตัวเลือกเรียนที่ครบครันตามความสนใจ ตั้งแต่ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และธุรกิจ ไปจนถึงการแพทย์และกฎหมาย
- การศึกษาเชิงปฏิบัติและการวิจัย: หลักสูตรในสหรัฐฯ มักเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งรวมถึงการวิจัย การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการฝึกงาน เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ที่ครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
- หลักสูตรภาษาอังกฤษ
- หลักสูตรภาษาอังกฤษที่หลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของนักเรียนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษทั่วไป (General English) ที่เน้นพัฒนาทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวัน, หลักสูตรภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ (Academic English) ที่เตรียมความพร้อมสำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัย, หรือหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ (Business English) สำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะทางธุรกิจและการทำงาน
- หลักสูตรภาษาอังกฤษแบบเข้มข้น (Intensive English Programs – IEP): หลักสูตรนี้เน้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมที่เข้มข้นและเร่งรัด มีชั่วโมงเรียนต่อสัปดาห์มากกว่าปกติและระยะเวลาการเรียนที่สั้นลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็ว
- หลักสูตรเตรียมสอบภาษาอังกฤษ (Exam Preparation Courses): สำหรับนักเรียนที่ต้องการเตรียมตัวสำหรับการสอบ TOEFL, IELTS, GRE หรือ GMAT ซึ่งเป็นข้อกำหนดในการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาหรือหลักสูตรวิชาชีพในสหรัฐฯ
- วิธีการเรียนการสอน: หลักสูตรภาษาอังกฤษในสหรัฐฯ มักจะเน้นการเรียนรู้แบบบูรณาการและการฝึกปฏิบัติที่เน้นการสื่อสารในสถานการณ์จริง เช่น การทำงานกลุ่ม การอภิปราย และการฝึกทักษะการพูดในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้นักเรียนมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ค่าใช้จ่ายในการศึกษาและการดำรงชีวิต
- ค่าเรียน: ค่าเรียนในสหรัฐอเมริกามีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทของสถาบัน (เช่น มหาวิทยาลัยของรัฐ, มหาวิทยาลัยเอกชน, วิทยาลัยชุมชน) และสถานที่ตั้ง สำหรับค่าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนในอเมริกา มักอยู่ที่ระหว่าง $25,000 – $55,000 ต่อปี ส่วนวิทยาลัยชุมชน (Community College) มักมีค่าเรียนที่ต่ำกว่ามาก โดยเริ่มต้นที่ประมาณ $3,000 – $10,000 ต่อปี
- ค่าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ: ค่าใช้จ่ายสำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกาแตกต่างกันไปตามสถาบันและประเภทของหลักสูตร โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ $1,200 – $2,800 ต่อเดือน หรือประมาณ $12,000 – $25,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและความเข้มข้นของการเรียน
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา: นอกจากค่าเรียนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าหนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียน ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ $300 – $1,200 ต่อปี ขึ้นอยู่กับหลักสูตรและสถาบันที่เลือก
- ค่าครองชีพ: ค่าครองชีพจะแตกต่างกันไปตามเมืองและภูมิภาคที่เลือก เมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และบอสตัน มักมีค่าครองชีพที่สูงกว่า โดยรวมค่าเช่าที่พัก อาหาร การเดินทาง และประกันสุขภาพแล้ว ค่าครองชีพเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $1,800 – $4,000 ต่อเดือน
- ทุนการศึกษาและการสนับสนุนทางการเงิน: มีทุนการศึกษาและการสนับสนุนทางการเงินหลายประเภทที่นักเรียนต่างชาติสามารถสมัครได้ เช่น ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ทุนจากรัฐบาล และทุนจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร การค้นคว้าและสมัครทุนเหล่านี้สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการศึกษาได้
การขอวีซ่าและข้อกำหนดในการเข้าเมือง
- ประเภทของวีซ่าสำหรับนักเรียน: นักเรียนต่างชาติที่ต้องการเรียนในสหรัฐอเมริกาจะต้องขอวีซ่า F-1 สำหรับการเรียนเต็มเวลา หรือวีซ่า J-1 สำหรับโปรแกรมแลกเปลี่ยน
- ขั้นตอนการขอวีซ่า: นักเรียนต้องได้รับเอกสาร I-20 จากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองก่อนที่จะสามารถสมัครวีซ่าได้ ขั้นตอนการขอวีซ่ารวมถึงการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 การชำระค่าธรรมเนียม SEVIS การนัดหมายสัมภาษณ์ที่สถานทูตสหรัฐฯ และการเตรียมเอกสารสนับสนุน เช่น หลักฐานการเงินและจดหมายแสดงความตั้งใจในการศึกษา
- ข้อกำหนดในการเข้าเมือง: เมื่อเดินทางถึงสหรัฐอเมริกา นักเรียนต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและแสดงเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด เช่น วีซ่า I-20 และหลักฐานการสนับสนุนทางการเงิน
รายการเอกสาร วีซ่า F-1
- วีซ่า F-1 สำหรับนักเรียนต่างชาติ: วีซ่า F-1 เป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาในสหรัฐอเมริกาแบบเต็มเวลาในสถาบันที่ได้รับการรับรอง เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียนมัธยม หรือสถาบันสอนภาษา
- รายการเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่า F-1:
- แบบฟอร์ม DS-160: แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าชั่วคราวออนไลน์ที่ต้องกรอกและส่งผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
- ใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม SEVIS (I-901 SEVIS Fee Receipt): นักเรียนต้องชำระค่าธรรมเนียม SEVIS เพื่อสนับสนุนระบบข้อมูลผู้มาเยือนเพื่อแลกเปลี่ยนทางการศึกษาและการศึกษาในสหรัฐอเมริกา
- เอกสาร I-20: ออกโดยสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรอง ซึ่งระบุว่านักเรียนได้รับการรับเข้าเรียนและมีคุณสมบัติสำหรับวีซ่า F-1
- หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานได้อย่างน้อย 6 เดือน หลังจากวันที่คาดว่าจะเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา
- รูปถ่ายตามข้อกำหนดของวีซ่า: ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของสถานทูตสหรัฐฯ เช่น ขนาดและพื้นหลัง
- หลักฐานทางการเงิน: เพื่อแสดงว่านักเรียนมีเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพระหว่างที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา เช่น ใบรับรองบัญชีธนาคาร หนังสือรับรองจากผู้สนับสนุนทางการเงิน หรือทุนการศึกษา
- จดหมายแสดงความตั้งใจในการศึกษา: อธิบายเหตุผลที่เลือกศึกษาในสหรัฐอเมริกาและแผนการศึกษาหลังจากจบหลักสูตร
- ใบรับรองการศึกษาและผลการเรียนที่ผ่านมา: เพื่อแสดงคุณสมบัติการศึกษาก่อนหน้านี้
- ขั้นตอนการสมัครวีซ่า F-1: การนัดหมายสัมภาษณ์ที่สถานทูตหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ ใกล้บ้าน และเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์โดยการเตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมด
โอกาสในการทำงานสำหรับนักเรียนต่างชาติ
- การทำงานในมหาวิทยาลัย (On-Campus Employment): นักเรียนที่ถือวีซ่า F-1 สามารถทำงานในมหาวิทยาลัยได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดเทอม และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดเทอม โดยงานจะต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย (Designated School Official – DSO) งานที่ทำได้ จะต้องอยู่ภายในมหาวิทยาลัยหรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา แต่ต้องไม่ทำให้ชาวอเมริกันที่อาศัยในสหรัฐฯ เสียโอกาสในการทำงาน และไม่จำเป็นต้องยื่นคำขออนุญาตการทำงานกับ USCIS
- การฝึกงานทางวิชาการ (Curricular Practical Training – CPT): CPT เป็นโอกาสให้นักศึกษาวีซ่า F-1 ทำงานหรือฝึกงานที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาของตน ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจาก DSO ของมหาวิทยาลัย งานต้องเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษาและได้รับการบันทึกไว้ในระบบข้อมูลของนักศึกษาและผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน (SEVIS)
- การทำงานหลังจบการศึกษา (Optional Practical Training – OPT): OPT เป็นการอนุญาตให้ทำงานชั่วคราวในสหรัฐฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาของนักศึกษา โดยสามารถทำ OPT ได้สูงสุด 12 เดือนหลังจากสำเร็จการศึกษา (หรือระหว่างการศึกษา) ทั้งนี้สำหรับสาขา STEM สามารถขยายเวลาทำงานออกไปอีก 24 เดือน หากได้รับการจ้างงานจากนายจ้างที่ใช้ระบบ E-Verify
วัฒนธรรมและการปรับตัวในสหรัฐอเมริกา
- การเปิดกว้างและความหลากหลาย: สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม นักเรียนต่างชาติจะได้พบปะและเรียนรู้จากผู้คนที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรมต่างๆ
- การสื่อสารและมารยาททางสังคม: สหรัฐอเมริกามักเน้นการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา นักเรียนควรเข้าใจและปรับตัวกับมารยาททางสังคมและการสื่อสารที่แตกต่าง เพื่อให้สามารถเข้ากับวัฒนธรรมใหม่ได้ดีขึ้น
- การปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่: การใช้ชีวิตในต่างประเทศอาจมีความท้าทาย นักเรียนควรเปิดใจเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมใหม่ และใช้บริการช่วยเหลือต่างๆ ที่สถาบันการศึกษาหรือมหาวิทยาลัยมีให้ เช่น ศูนย์ช่วยเหลือนักเรียนต่างชาติและการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา
บริการและการช่วยเหลือ
- ศูนย์นักเรียนต่างชาติ (International Student Office):มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามักมีศูนย์นักเรียนต่างชาติที่ให้บริการคำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านต่างๆ เช่น การขอวีซ่า การปรับตัวในการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ และการวางแผนการศึกษา เพื่อช่วยให้นักเรียนต่างชาติปรับตัวได้ง่ายขึ้น
- บริการด้านสุขภาพและความปลอดภัย: มหาวิทยาลัยมีศูนย์สุขภาพและบริการด้านสุขภาพจิตสำหรับนักเรียนต่างชาติ พร้อมทั้งคำแนะนำเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพที่เหมาะสม
- การสนับสนุนจาก UPLUS:
- การให้คำปรึกษาเรื่องการศึกษา: ช่วยนักเรียนเลือกหลักสูตรและสถาบันที่เหมาะสมกับเป้าหมายและความสนใจ
- การเตรียมตัวขอวีซ่า: ให้คำแนะนำและช่วยเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขอวีซ่า F-1 และการสัมภาษณ์
- การสนับสนุนด้านการหาที่พักและการใช้ชีวิต: ช่วยหาที่พักและให้คำแนะนำการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ พร้อมการปรับตัวในวัฒนธรรมใหม่
- การจัดเวิร์กช็อปและกิจกรรม: จัดเวิร์กช็อปและกิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้ การใช้ชีวิตในต่างแดน และสร้างเครือข่ายเพื่อนใหม่
- บริการให้คำปรึกษาหลังจากมาถึง: ให้ความช่วยเหลือหลังจากเดินทางถึง เพื่อให้นักเรียนสามารถปรับตัวและประสบความสำเร็จในการศึกษาได้อย่างราบรื่น
ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม
- การเตรียมตัวไปศึกษาในสหรัฐอเมริกาต้องมีการวางแผนที่ดีและมีข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อให้การเดินทางและการเรียนเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ นี่คือรายละเอียดเพิ่มเติมที่นักเรียนต่างชาติควรรู้และเตรียมตัว:
การทำความรู้จักกับเมืองที่อยู่อาศัย
- การสำรวจและทำความรู้จักกับเมืองที่เลือก: การเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองที่คุณจะไปศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ค่าครองชีพ, สภาพอากาศ, การคมนาคม และวัฒนธรรมท้องถิ่น การเข้าใจลักษณะเฉพาะของเมืองแต่ละเมืองจะช่วยให้คุณปรับตัวและรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น
- แหล่งข้อมูลแนะนำ: เว็บไซต์ท่องเที่ยวและบล็อกนักเรียนต่างชาติที่ให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับชีวิตในเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา เช่น Lonely Planet หรือ TripAdvisor
การจัดการเรื่องการเงินและการทำบัญชีรายรับรายจ่าย
- การจัดการการเงิน: นักเรียนควรจัดทำงบประมาณรายรับและรายจ่ายอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายหลักเช่น ค่าเล่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าประกันสุขภาพและค่าใช้จ่ายส่วนตัว
- เครื่องมือจัดการการเงิน: ใช้แอปพลิเคชันสำหรับจัดการการเงิน เช่น Mint หรือ You Need A Budget (YNAB) เพื่อช่วยให้คุณติดตามการใช้จ่ายและปรับงบประมาณตามความจำเป็น
การเชื่อมต่อและสร้างเครือข่าย
- เข้าร่วมชมรมและกลุ่มนักศึกษา: การเข้าร่วมชมรมและกิจกรรมในมหาวิทยาลัยจะช่วยให้นักเรียนต่างชาติได้พบปะเพื่อนใหม่และสร้างเครือข่ายทางสังคมและวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งในระหว่างการศึกษาและหลังจากสำเร็จการศึกษา
- แหล่งข้อมูลแนะนำ: เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่แสดงรายชื่อชมรมและกลุ่มนักศึกษาที่มีอยู่ รวมถึงโซเชียลมีเดียของมหาวิทยาลัย
การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรออนไลน์
- เรียนรู้และพัฒนาทักษะออนไลน์: มีทรัพยากรออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยนักเรียนพัฒนาทักษะต่างๆ เช่น ภาษาอังกฤษ ทักษะด้านเทคนิค หรือความรู้ด้านวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์ Coursera, edX, และ Duolingo
- แหล่งข้อมูลแนะนำ: เว็บไซต์การเรียนรู้ออนไลน์เช่น Khan Academy หรือ Udemy ที่มีคอร์สหลากหลายให้เลือกเรียนตามความสนใจและเป้าหมาย
การเดินทางและการท่องเที่ยว
- การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางในสหรัฐอเมริกา: การเข้าใจวิธีการเดินทางในสหรัฐอเมริกา เช่น การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การเช่ารถ หรือการเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ จะช่วยให้นักเรียนสามารถสำรวจประเทศได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
- แหล่งข้อมูลแนะนำ: เว็บไซต์แนะนำการเดินทาง เช่น Amtrak สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟ หรือ Greyhound สำหรับการเดินทางด้วยรถบัส
URL ที่มีประโยชน์สำหรับนักเรียนต่างชาติ
- EducationUSA – เว็บไซต์อย่างเป็นทางการที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา รวมถึงคำแนะนำในการสมัครเรียน การขอวีซ่า และการปรับตัวในสหรัฐอเมริกา
- URL: EducationUSA
- U.S. Department of State – Student Visas – ข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของวีซ่าสำหรับนักเรียนและขั้นตอนการสมัครวีซ่า F-1 รวมถึงเอกสารที่จำเป็น
- International Student – เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาในต่างประเทศ รวมถึงคำแนะนำด้านการเงิน การประกันสุขภาพ และการปรับตัวในสหรัฐอเมริกา
- NAFSA: Association of International Educators – องค์กรที่ให้ข้อมูลและทรัพยากรสำหรับนักเรียนต่างชาติและเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยที่ทำงานกับนักเรียนต่างชาติ
- URL: NAFSA
- Lonely Planet USA – เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม และคำแนะนำในการเดินทาง
- URL: Lonely Planet USA
- Mint – Budget Tracker & Planner – เครื่องมือจัดการการเงินออนไลน์ที่ช่วยให้นักเรียนสามารถติดตามการใช้จ่ายและจัดทำงบประมาณรายเดือน
- URL: Mint
การเข้าถึงแหล่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้นักเรียนต่างชาติมีความพร้อมในการเรียนและใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกาได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จ.