Supachai Connect you with the world

วิสัยทัศน์ในการทำงานของเอ็ม คืออยากให้นักเรียนไทยมีการพัฒนาด้านการเรียนภาษาอังกฤษ รวมถึงด้านวิชาชีพและทักษะต่าง ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ต่อในอนาคตได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากสิ่งที่เราให้กับนักเรียนในด้านของความรู้และประสบการณ์แล้ว ทาง ilsc ยังมีวิสัยทัศน์ที่พิเศษกว่าคือ เราต้องการสร้าง community ให้กับนักเรียน ที่ไม่ใช่กับแค่นักเรียนไทย แต่จะเป็น global system relationship คือตัวนักเรียนไทยเป็นพลเมืองของโลกและได้ความเป็น international life มากขึ้น

ilsc มีความแตกต่างจากสถาบันอื่นคือ เรื่องความหลากหลายของตัวหลักสูตรทั้งภาษาอังกฤษและ diploma ตัวภาษาอังกฤษเราจะค่อนข้างพิเศษกว่าที่อื่นตรงที่ว่า นักเรียนสามารถ mix&match ตัวคอร์สเรียนภาษาอังกฤษได้ เพราะว่าเรามีทั้งตัว course subject และ elective ซึ่งน้อง ๆ สามารถเลือกเรียนตามความสนใจได้ แล้วในเรื่องความหลากหลายของตารางเรียนเรามีทั้ง morning class, afternoon class, evening class ตรงนี้นักเรียนสามารถเลือกเรียนได้เลย ว่าจะเรียนช่วงเช้า ช่วงบ่าย หรือช่วงเย็น

อีกจุดหนึ่งที่เอ็มมองว่าค่อนข้างเด่นคือ English only policy เมื่อนักเรียนทุกคนมาถึงโรงเรียนแล้วจะต้องพูดภาษาอังกฤษหมด ไม่อนุญาตให้นักเรียนพูดภาษาอื่น ๆ ซึ่งตรงนี้ก็เหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้นักเรียนพูดภาษาอังกฤษ พอจบทุก ๆ เดือนจะก็ได้เป็นกรีนการ์ดหรือใบเขียว ซึ่งกรีนการ์ดตรงนี้นักเรียนจะได้ shopping voucher เป็นของรางวัลด้วย

จุดเด่นสุดท้ายคือ เรื่องการสร้าง community หรือกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งเราก็ให้ความสำคัญกับนักเรียนเหมือนกัน ไม่ใช่พอเลิกเรียนจบปุ๊ปทุกคนกลับบ้านแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ แต่ตรงนี้เราต้องการให้นักเรียนมีเพื่อน มีชุมชน หรืออีกสังคมหนึ่งให้นักเรียนมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันมากขึ้น นอกเหนือจากคลาสเรียนในห้องเรียนแล้ว ยังมีเป็นปฏิทินกิจกรรมให้นักเรียนสามารถร่วมกิจกรรมได้ ทั้งสันทนาการ academic หรือ job club ที่เป็นการช่วยให้นักเรียนเตรียมตัวและเทคนิคในเรื่องของการหางาน เช่น การตรวจเรซูเม่ เทคนิคในการสัมภาษณ์งาน หรือการแต่งกาย ถ้าเป็นกิจกรรมในเชิง academic เราก็จะมีเป็น IELTS free test ซึ่งเป็นแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษให้เด็กเตรียมตัวก่อน โดยน้อง ๆ สามารถเข้าร่วมได้เลยทุกคน

ด้วยเปอร์เซ็นต์ของนักเรียนไทยที่ ilsc ยังไม่ได้มีมากจนเกินไป โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ อย่างซิดนีย์ ซึ่งมีนักเรียนไทยแค่ประมาณ 7% เท่านั้น ดังนั้นถ้าอยากเลือกเมืองใหญ่แต่มีเปอร์เซ็นต์นักเรียนไทยน้อย เอ็มคิดว่าโรงเรียนเราน่าจะตอบโจทย์ หรือด้วยตัวเมืองเมลเบิร์นเองที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมของนักเรียนไทย ก็มีนักเรียนไทยอยู่แค่ประมาณ 11% บวกกับกิจกรรมที่เรามี คุณภาพการเรียนการสอน รวมถึงโปรโมชั่นและราคาที่มีให้กับนักเรียนไทยก็ไม่ได้สูงจนเกินไป ถ้าเทียบสิ่งที่จ่ายไปกับสิ่งที่นักเรียนได้ ตรงนี้เอ็มคิดว่านักเรียนได้มาคุ้มค่ามาก ๆ ทั้งในเรื่องของคุณภาพการเรียนการสอน รวมถึงประสบการณ์ที่ได้จากโรงเรียนหรือการใช้ชีวิตในเมืองนอก

อันดับแรกน่าจะเป็นการเปิดใจพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งในเรื่องความรู้และประสบการณ์ที่จะไปเจอในต่างแดน นอกจากเรื่องความตั้งใจ การเตรียมความพร้อม ก็อาจจะเป็นเรื่องความรู้เบื้องต้น จริง ๆ ถ้าน้อง ๆ ไม่มีทักษะภาษาอังกฤษเลยก็สามารถไปเรียนภาษาอังกฤษได้ แต่ถ้าน้องจะไปเรียนในระดับที่สูงขึ้นอย่างตัว diploma ตรงนี้อาจจะต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาก่อนในระดับหนึ่ง ถึงจะสามารถเรียนในหลักสูตรนี้ได้