Skip to main content
การเรียนมหาวิทยาลัยในอเมริกานั้น บางคนอาจจะคิดแค่ว่า มีค่าใช้จ่ายอย่างมากก็แค่ ค่าเรียน, ค่าธรรมเนียม, ค่าเช่าห้อง, ค่าบำรุงกรรมการนักเรียน และค่าหนังสือ ซึ่งโดยรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วจะอยู่ประมาณ US$ 40,000 ต่อปี ที่ยังไม่รวมค่าครองชีพประจำวัน เช่น ค่าซักรีด, ค่าโทรศัพท์มือถือ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ จิปาถะ ซึ่งส่วนนี้จะตกอยู่ประมาณ US$ 2,000 ต่อเดือน

แต่เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นอีก ที่เมื่อเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว เราอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องจ่ายเพิ่มเติม ซึ่งการเผื่อเงินบางส่วนเอาไว้ จะเป็นการเตรียมตัวที่ดี และจะไม่ต้องกังวลกับการใช้จ่าย เมื่อต้องเรียนมหาวิทยาลัยในอเมริกา

1

ค่าสมาชิกชมรม

การเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกา จะต้องเลือกชมรมในการทำกิจกรรมระหว่างเรียน และชมรมหลายชมรมจะเสียค่าสมาชิกในแต่ละปีที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะชมรมประเภทที่เรียกว่า Fraternity (ชมรมชายล้วน) หรือ Sorority (ชมรมหญิงล้วน)
2

ค่าตั๋วชมทีมกีฬาของมหาวิทยาลัย

ในบางมหาวิทยาลัยของอเมริกา การซื้อตั๋วเข้าไปชมเกมอเมริกันฟุตบอลหรือบาสเกตบอลทีมมหาวิทยาลัย เป็นประสบการณ์ที่สำคัญของนักศึกษาทุกคน ซึ่งบางคนเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเพราะทีมกีฬานี่แหละ แม้ราคาตั๋วเข้าชมจะมีส่วนลดให้สำหรับนักศึกษา แต่ถ้าทีมมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงในวงการกีฬา ราคาตั๋วก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย
3

ค่าจอดรถในมหาวิทยาลัย

มหาวิทยาลัยของอเมริกา จะคิดค่าจอดรถสำหรับนักศึกษาที่นำรถมาจอดในมหาวิทยาลัยเป็นค่าใบอนุญาติจอดรถ ซึ่งมีราคาสุงมาก จนถึงเกือบ US$ 1,000 ต่อปี/ต่อคัน เลยทีเดียว
4

ค่าเดินทางจากบ้านไปมหาวิทยาลัย

แน่นอนว่า การไปเรียนต่างบ้านต่างเมือง จะต้องมีการคิดถึงบ้านอยู่เป็นธรรมดา และค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ในการเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัย ควรจะถูกคำนึงถึงไว้ด้วย โดยเฉพาะการเดินทางด้วยเครื่องบิน ทีอาจต้องเผื่อเงินไว้สำหรับส่วนนี้ ถึงปีละมากกว่า US$ 1,000
5

ค่าขนย้ายสิ่งของ และค่าเช่าห้องเก็บของระหว่างช่วงปิดเทอม

เมื่อมหาวิทยาลัยปิดเทอม นักศึกษาจะต้องขนของออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าไม่ขนกลับบ้าน ก็จะต้องหาห้องเช่าสำหรับเก็บของ โดยค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ US$ 200-300 ตลอดช่วงซัมเมอร์